วิธีการดูแลผิวคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมลูก

2018-07-13 10:20:16

#ครีมคนท้อง

#ครีมบำรุงผิวหน้าคุณแม่ตั้งครรภ์

#รักษาสิว คนท้อง

#ครีมทาท้องลาย

#เครื่องสำอางค์ที่คุณแม่ท้องควรหลีกเลี่ยง

#ครีมสำหรับคนท้อง

คุณแม่หลายท่านมักกังวล และสงสัยว่า จะดูแลผิวคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างไร ให้กลับมาสดใสเปล่งปลั่ง เพราะช่วงเวลาต้ังครรภ์ ผิวหน้าคุณแม่มักแพ้ง่าย เป็นสิวง่ายขึ้น มีอาการหมองคลํ้า พร้อมท้ังผิวกาย เริ่มมีรอยดําคลํ้าและรอยแตกลาย เพราะฮอร์โมนที่แปรปรวน

4 วิธีการดูแลผิวคุณแม่ตั้งครรภ์:

การทําทรีตเมนท์บํารุงผิวหน้า
โดยท่ัวไป การทําทรีตเมนท์บํารุงผิวหน้าน้ันปลอดภัย เพียงแต่คุณแม่ควรระวังสารประกอบที่มี ความเสี่ยง เช่นกลุ่มวิตามินเอ (เรตินอยด์) หรือ Salicylic acid ทางที่ดี ควรหลีกเลี่ยงทรีตเมน ต์ที่มีการลอกผิว (microdermabrasion หรือ facial peels) เพราะอาจทําให้ผิวที่บอบบางที่ ช่วงเวลานี้ระคายเคืองเป็นพิเศษ ทําให้ผิวแดงและไวต่อแสง อีกตัวหนึ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงคือกลุ่ม เลเซอร์และทรีตเมนต์ที่ใช้คลื่นไฟฟ้า รวมไปถึงแบบที่ใช้เองที่บ้าน ทางที่ดี หากไม่แน่ใจ ควร ปรึกษาแพทย์ก่อนตัวสินใจทําทุกคร้ัง

การฉีดฟิลเลอร์และโบท็อกซ์
การฉีดฟิลเลอร์น้ัน ยังไม่เคยมีการทดสอบว่าปลอดภัยต่อแม่และลูกในครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม คอลลาเจน Restylane หรือ Juvederm เช่นเดียวกันกับโบท็อกซ์ ดังน้ันเพื่อความปลอดภัย
ควรหลีกเลี่ยงการฉีดช่วงระหว่างต้ังครรภ์

การเลือกใช้ครีมลดริ้วรอย
หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารในกลุ่มวิตามินเอหรือเรตินอยด์ วิตามินเค และ Salicylic Acid
(BHA) ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนําให้เลี่ยงกรด AHA ด้วย

การทําทรีตเมนต์รักษาสิว
ช่วงต้ังครรภ์ โดยเฉพาะในไตรมาสแรก คุณแม่มักสิวขึ้นเยอะกว่าปกติ เพราะฮอร์โมนใน
ร่างกายเปลี่ยนไป คุณแม่สามารถใช้สครับอ่อนๆ ที่มีส่วนผสมกรดผลไม้หรือ glycolic acid และสามารถใช้ยาที่หมอหรือเภสัชกรจ่ายให้บางตัวเช่น Azaleic Acid และ Erythromycin เพื่อรักษาสิว อย่างไรก็ตามคุณแม่ควรงดใช้ยาสิวบางกลุ่มเช่น Salicylic Acid (BHA) และ Benzoyl Peroxide ที่สําคัญจําเป็ นต้องงดทานยารักษาสิวโดยเด็ดขาด และควรเลิกใช้
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่มีสารในกลุ่มวิตามินเอหรือเรตินอยด์ ห้านแกะสิว และพยายามรักษาความ สะอาดผิวหน้าให้ดี เท่านี้ก็สามารถช่วยให้อาการสิวดีขึ้นได้

เคล็ดลับเพิ่มเติม: เลือกครีมบำรุงผิวหน้าคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมอย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูกน้อย

เพียงเท่านี้ คุณแม่ท้องและคุณแม่ให้นมลูกก็สามารถสวยได้อย่างปลอดภัยและม่ันใจค่ะ ถ้าสงสัย หรือไม่แน่ใจ ควรปรึกษาแพทย์ทุกคร้ังนะคะ